เมื่ออายุ 34 เคยคิดว่าถ้าตาย ณ.ตอนนี้ชีวิตนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วชีวิตผ่านอะไรมาก็เยอะ เยอะกว่าคนที่อายุพอๆกันหรือมากกว่าด้วยซ้ำ ถามว่าเพราะอะไรหนะเหรอ
จากชีวิตวัยเด็ก ไม่ได้โตกับพ่อแม่มาโตกับญาติที่ กทม. ผ่านอะไรมาก็เยอะ
เคยกินข้าวกับน้ำปลา เก็บของเก่าขาย และก็เคยนั่งกินข้าวใน รร. หรูๆ เป็นเดือนๆ
เคยใช้สิ่งของต่อจากคนอื่นและก็เคยอยากได้อะไรก็ซื้อด้วยตัวเองไม่ว่าจะแพงแค่ไหนเท่าที่ซื้อได้ เรียนจบ ป.ตรี มีรถยนต์ใช้ มีเงินเดือนสูง อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ไป มีเพื่อน มีลูกน้องและมีอะไรอีกมากมาย…..
ณ.ขณะนี้อายุ 38 ปี เมื่อคิดย้อนไป ถ้าตายตอนนั้น ก็คงไม่ได้ใช้ชีวิต หรือเรียนรู้อะไรต่างๆ อีกมากมาย ชีวิตนี้
เคยเป็นลูกจ้างทำงานในบริษัทต่างๆ เป็นพนักงานขายทั้งใน กทม.และ ตจว. ได้เดินทางทำงานและเที่ยว เริ่มต้นเงินเดือน 7,000.- ทำงาน 2 เดือน เงินเดือนขึ้นเป็น 8,500.- (เคยได้เงินเดือน 15,000.- ปรับเงินเดือนให้เป็น 23,000.- เงินเดือนขึ้น 8,000.- ถือว่าสูงมากในการปรับเงินเดือน)
เคยเป็น ผจก.เสื้อผ้านำเข้าแบรนด์ดังจากเยอรมัน (เดินห้างทุกวัน)
เคยเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับเครื่องจักรกล
เคยเป็นเจ้าของแบรนด์ยี่ห้อเครื่องสำอางค์
เคยเปิดร้านขายก๊วยเตี๋ยว
แม้กระทั้งเคยเป็นหมอดู เกือบจะได้ดูดวงผ่านเคเบิ้ลของภูเก็ตช่องไอเดียทีวี 8
ขายทัวร์ท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ทั้งๆที่โง่มากเรื่องของภาษาอังกฤษ
ที่ผ่านมามันคืออดีต ชีวิตที่หวือหวา แต่เคร่งเครียดกับหน้าที่การงาน การใช้ชีวิต ปัจจุบันนี่สิ กลับมาอยู่ปราจีน อาศัยแม่บุญธรรม ทำงานกับแม่แค่วันละ 1-2 ชม. ถึงแม้ว่ารายได้อาจจะไม่มากแต่ก็มากกว่าบางคนที่ทำงานเต็มเวลาทั้งหนักและเหนื่อย เวลาที่เหลือก็นอนพัก เล่น ไม่เครียด อากาศก็แสนดี ไม่วุ่นวาย…….
สิ่งที่อยากทำอีกอย่างคือ อยากมีรีสอร์ทเล็กๆ รีสอร์ทบ้านดิน ในสวนผลไม้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำมากน้อยแค่ไหน……
ชีวิตนี้ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมาย….มันชั่งน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก